9/21/2551

ไม่อยากฟอร์แมตเครื่องใหม่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า

ที่มา ของปัญหาโปรแกรมวินโดว์เสียก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความอยากรู้
อยากเห็นและอยากจะเก่ง นักเล่นคอมพิวเตอร์หลายๆ คนมักมีคุณสมบัติเด่นเฉพาะที่คล้ายกันคือ
“มือใหม่ใจมันส์” ใครบอกโปรแกรมนั้นดี เกมส์ นั้นเล่นสนุกก็เป็นต้องเอามาติดตั้ง
เล่นได้มั่งไม่ได้มั่งก็ไม่เป็นไรแค่ขอให้ได้ลองก็พอใจ (อันนี้เป็นกันทุกคนจริงๆ นะ)
ที่สุด ผลของการชอบลองของก็เกิดเหตุจนได้

เมื่อคอมพิวเตอร์เจ้ากรรมทำงานอืดเหมือนเต่าคลาน โปรแกรมทั้งหมดในเครื่องเริ่มที่จะทำงานกันแบบสโลว์โมชั่น เปิดโปรแกรมอะไรขึ้นมาก็ต้องรอจนใจแทบขาด สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องฟอร์แมตล้างเครื่องใหม่ (โอย เอาอีกแล้ว)

วันนี้มีวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง แต่ เอ จะเรียกว่าเป็นการแก้ไขก็ไม่เชิงหรอก
ต้องเรียกว่าเป็นการป้องกันปัญหาดีกว่า หลักการมีอยู่ว่า ตอนที่โปรแกรมวินโดว์ในคอมพิวเตอร์ของเรายังใช้งานได้ดี ก็ให้เราบันทึกค่าเก็บเอาไว้ ในวันข้างหน้าหากโปรแกรมวินโดว์เกิดรวนขึ้นมาเราก็สามารถที่จะย้อนกลับไป ณ วันที่เราบันทึกค่าเอาไว้ได้ แน่นอนเครื่องเราก็จะกลับมาทำงานได้เหมือนตอนที่เราบันทึกเอาไว้นั่นเอง เราเรียกวิธีการบันทึกค่าแบบนี้ว่า System Restore Point ครับ (ว่าแล้วก็ต้องขออภัยสำหรับเพื่อนๆที่ใช้งานโปรแกรมSystem Restoreเป็นอยู่ก่อนแล้วด้วยนะ ไม่เจตนาจะเอามะพร้าวมาขายสวนนะ)

วิธีใช้งาน

วิธีการทีดังนี้

1. บันทึกวันที่โปรแกรมวินโดว์ยังไม่เสีย
1.) คลิกที่ปุ่ม Start > Programs > Accessories > System Tools > System Restore ดังรูป
2.) คลิกเลือก Create a retore point. และคลิกปุ่ม Next
3.) ตั้งชื่อ(อะไรก็ได้)
4.) เมื่อตั้งชื่อเรียบร้อยแล้วคลิกปุ่ม Create
5.) จะแสดงวันเวลาที่เราได้ทำการจดจำความสมบรูณ์ของเครื่องเอาไว้
6.) คลิกที่ปุ่ม Close ขั้นตอนการจดจำความสมบรูณ์ของเครื่องก็เสร็จเรียบร้อยครับ


2. ย้อนกลับไปยังวันที่เราบันทึกไว้
เมื่อถึงวันที่โปรแกรมวินโดว์เรารวนรวนขึ้นมา ก็สามารถที่จะย้อนไปยังวันที่เราตั้งค่าเอาไว้ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.) คลิกที่ปุ่ม Start > Programs > Accessories > System Tools > System Restore
2.) คลิกเลือกที่ Restore my computer to an earlier time ดังรูป เสร็จแล้วก็คลิกปุ่ม Next
3.) คลิกเลือกวันเวลาที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ (วันที่ที่เราต้องการย้อนกลับ) และ คลิกปุ่ม Next
4.) โปรแกรมจะยืนยันการย้อนกลับไปยังวันเวลาที่เราต้องการ เรียบร้อยแล้วให้คลิกปุ่ม Next จากนั้นรอสัก 1 นาทีระบบกำลังย้อนกลับไปยังวันเวลาที่เราได้เลือกเอาไว้
5.) คลิกปุ่ม OK สิ้นสุดขั้นตอนการย้อนกลับไปยังวันที่เครื่องสมบรูณ์



ที่มา Bloggang.com

8/28/2551

คุณได้อะไรจากการเรียนวิชาเตรียมฝึกฯ

สิ่งที่ได้จากการเรียนวิชาเตรียมฝึกก็ คือ


ประสบการณ์ในเรื่องของการ จัดทำโครงการ นำเสนอโครงการ


ซึ่งก็เป็นอะไรที่แตกต่างจากที่ทำเมื่อก่อนมาก


สิ่งที่ทำมีรายละเอียดและเนื้องานที่มากขึ้น


ต้องมีการเตรียมข้อมูล และศึกษาข้อมูลอยู่ตลอด


ส่วนในการเรียนแต่ละสัปดาห์ ก็ได้รับความรู้


จากเพื่อน และวิทยากรที่มาบรรยาของแต่ละแขนง


ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบุคลิกภาพ


การนั่ง ยืน เดิน การแต่งกาย


ในเรื่องของการตลาด การวางแผนการตลาด


ฯลฯ


ซึ่งที่ได้รับจากการเรียนวิชาเตรียมฝึกฯ นั้น


เราสามารถที่จะนำไปปรับปรุง เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย



8/21/2551

1 นาทีเพื่อการลดน้ำหนัก


สิ่งเดียวที่คุณต้องการก็คือเวลาหนึ่งนาที เพื่อเริ่มการกำจัดน้ำหนักส่วนเกิน และต่อไปนี้คือกลยุทธ์แสนง่ายดาย ในการตัดลดแคลอรี่และเผาผลาญไขมันอย่างได้ผล ซึ่งใช้เวลาเพียง 60 วินาที หรือน้อยกว่านั้น
1. เจือจางน้ำผลไม้ ผสมน้ำผลไม้ที่คุณโปรดปราน (ครึ่งหนึ่งของปริมาณที่คุณเคยดื่ม) กับน้ำเปล่าหรือน้ำ
แร่แบบมีฟอง คุณสามารถตัดลดแคลอรี่ลงไปได้อย่างน้อย 85 แคลอรี่ ต่อแก้ว ซึ่งหมายถึง 2 กิโลใน
หนึ่งปี
2. เคี้ยวหมากฝรั่ง งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ ค้นพบว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาลตลอดทั้งวันเพิ่มอัตราการ
ผลาญได้ราว 20 % ที่สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าปีละ 10 ปอนด์
3. จิบชาเขียวก่อนออกไปเดิน คาเฟอีนช่วยปลดปล่อยกรดไขมันของคุณ จึงเผาผลาญไขมันได้ง่ายกว่า
และโพลีฟีนอล (ที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์) ในชาเขียวก็ดูจะทำงานร่วมกับคาเฟอีนในการเพิ่มการเผา
ผลาญแคลอรี่ (ถ้าคุณความดันโลหิตสูง อย่าใช้เคล็ดลับนี้)
4. หลอกต่อมรับรส การจิบยาแก้ไอรสเมนธอลหรือยูคาลิปตัสจะช่วยระงับอาการอยากอาหารได้อย่างชะงัด
ในทันที
5. เพิ่มรสชาติเผ็ดร้อน การเติมพริกลงในอาหารจะทำให้คุณทานอาหารช้าลง และพริกยังช่วยเพิ่มการผลาญ
พลังงานอีกด้วย
6. อย่าอยู่เฉย การขยับแข้งขยับขาหรืออยู่ไม่สุขตลอดเวลาจะช่วยคุณเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น ซึ่งอาจมาก
ถึงวันละ 700 แคลอรี่เลยล่ะ
7. เช่าหนังผีมาดู คุณมีความอยากอาหารน้อยลงเวลาที่กลัว แต่จะกินมากขึ้นถ้าโกรธหรือมีความสุข
8. มองตัวเอง งานวิจัยบอกว่า การมองตัวเองในขณะกินอาหาร อาจทำให้คุณกินน้อยลงได้ 22-32 %
9. วิดพื้น ก่อนที่คุณจะเปิดถ้วยไอศกรีม วางมันลงก่อนแล้วก็ทำท่าวิดพื้นซัก 10 ครั้ง การทำกิจกรรมทาง
กายบางอย่างจะทำให้คุณสำนึกถึงเป้าหมายของคุณขึ้นมาได้
10. ดมกลิ่น เวลาที่อยากกินขนมเค้กหรือคุกกี้หอมกรุ่นพวกนั้นเหลือเกิน ลองทำแบบนี้ดู สูดกลิ่นมันสัก 30
วินาที ก่อนกิน มันจะเป็นการตอบสนองต่อความอยากที่จะช่วยให้คุณหยุดกินได้แค่คุกกี้ชิ้นเดียว
11. กินปลา ปลาที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 เช่น ทูน่า แม็กครีล และแซลมอน อาจช่วยคุณลดน้ำหนัก
ได้ด้วยการเผาผลาญไขมันให้ดีขึ้น คนที่น้ำหนักเกิน ซึ่งกินอาหารแคลอรี่ต่ำที่มีปลาด้วยทุกวัน ลด
น้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ได้กินปลาเลยราว 20 %


ที่มา : ขอขอบคุณ LISA WEEKLY ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ประจำวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2551

แปลกไหม ?

แปลกไหม...ที่คนที่คุณบอกว่ารัก

แต่...เค้ากลับทิ้งคุณไป



แปลกไหม...ที่เราต้องส่งอีเมล์ให้คนที่ทำงานอยู่โต๊ะติดกัน

แต่...เราบอกว่าไม่มีเวลาโทรไปหาพ่อแม่



แปลกไหม...ที่วันเกิดเรา พ่อแม่เราดีใจที่สุด

แต่...เราไปทานข้าวกับคนอื่น



แปลกไหม...ที่คุณเลี้ยงข้าวเพื่อนตอนรับปริญญา

แต่...คุณไม่ได้เลี้ยงข้าวคนที่ส่งคุณเรียนจนจบปริญญา



แปลกไหม...ที่เรารักเพื่อนที่เคยเลี้ยงข้าวเราเพียง 1 มื้อ

แต่...เรากลับไม่เคยส่งเงินให้กับคนที่เลี้ยงข้าวเรามา 25 ปี



แปลกไหม...ที่เรารักใครบางคน ที่ไม่กล้าแม้แต่จะจับกางในของเรา

แต่...เรากลับเบื่อเสียงเตือนของคน ที่ล้างก้นให้เราได้มากกว่า 3 ปี



แปลกไหม...ที่เพื่อนโทรมาชวนเราเวลาไหนเราก็ออกไป

แต่...พ่อแม่จะมาหา เรากลับบอกว่าไม่ว่าง



แปลกไหม...ที่คุณทำอะไรได้ทุกๆ อย่าง เพื่อใครบางคน

แต่...คุณไม่เคยทำสิ่งที่พ่อแม่คุณแอบดีใจ



แปลกไหม...ที่คุณต้องพูดจาเพราะๆ เพื่อให้เขายอมรับ

แต่...คุณไม่เคยพูดเพราะกับพ่อแม่คุณเอง



แปลกไหม....ที่คุณยังรอที่จะทำบุญกับท่าน ในวันที่ท่านไม่อยู่



วันนี้คุณคิดถึงผู้หญิงคนนี้หรือยัง?




8/20/2551

ชินชา :: ชาชิน


ฉัน ชิ น ช า เพราะใจมันด้านชา



ฉัน ช า ชิ น เพราะคุณนั่นแหละ



ฉัน ก็มีหัวใจนะทำอะไรก็นึกถึงใจกันบ้างเหอะ



ไม่อยากพูดเลยจริง ๆ


8/07/2551

bLOGZ-ของฉัน

เหอะ ๆ กว่าจะทามได้
จริง ๆ มันก็ไม่ยากหรอก
แต่ก็นะ มันยัง งง อยู่เลย
ช่วงเน้ ก็เรียน ปี 3 และ
เหนื่อยเหมือนกัน
ทำงานของมหาลัยไปด้วย
เรียนไปด้วย
เหอะ ๆ เพื่อน ๆ คง ไล่ออกจากกลุ่มซะแล้วมั้ง
อากาศเปลี่ยน เราก็ป่วย
ทำไมต้องเป็นภูมิแพ้ด้วยหว่า?
เซ็ง ๆ I am homealone .